การ์ดแสดงผล หรือ การ์ดจอ (video card หรือ display card) เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูลเกี่ยวกับการแสดงผลจากหน่วยความจำ มาคำนวณและประมวลผล จากนั้นจึงส่งข้อมูลในรูปแบบสัญญาณเพื่อนำไปแสดงผลยังอุปกรณ์แสดงผล (มักเป็นจอภาพ)
ประเภทของการ์แสดงผล
1.AGP(Accelerated Graphics Port)
2.PCI Express
การทำงานของการ์แสดงผล
ถ้าคุณซื้อเครื่องคอมพิวเตอร์สักตัวก็จะได้รับจอภาพพร้อมกับการ์ดแสดงผลที่ติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์มาด้วย (การ์ดแสดงผลมักจะเสียบอยู่กับช่องเสียบการ์ดแสดงผลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่จะมีเครื่องคอมพิวเตอร์บางรุ่นที่การ์ดแสดงผลเชื่อมอยู่บนกระดานระบบ)
ข้อควรระวัง ในกรณีที่คุณต้องการเปลี่ยนจอภาพ ควรจะถามผู้ขายด้วยว่ามีความจำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนการ์ดแสดงผลด้วยหรือไม่ เพราะจอภาพบางรุ่นจำเป็นต้องใช้ควบคูกับการ์ดแสดงผลเฉพาะรุ่น
(การแสดงผล {มักจะเรียกว่าวิดีโอการ์ด} จะทำงานคู่กันกับจอภาพ)
จอภาพแบบมัลติสแกน (Multiscan monitor) จะสามารถทำงานร่วมกับการ์ดแสดงผลได้หลากหลายรุ่น ข้อดีของจอภาพแบบนี้ก็คือ ในกรณีที่คุณเปลี่ยนการ์ด แสดงผลใหม่ คุณก็สามารถใช้จอภาพชนิดนี้ต่อเชื่อมได้ทันที โดยไม่ต้องเปลี่ยนจอภาพใหม่เหมือนกับการ์ดแสดงผลบางรุ่น แต่ข้อเสียของจอภาพแบบนี้ก็คือมีราคาแพง
บางครั้งคุณอาจจะได้ยินคนบานเรียกการ์ดแสดงผลว่า “การ์กากราฟิก”(Graphic board) หรืออาจจะเรียกว่า “ตัวแปลงสัญญาณกราฟิก” (Graphic adapter) หรือแม้แต่ตัวแปลงสัญญาณวิดีโอ (Video adapter) หรือวิดีโอบอร์ (Video board) ไม่ต้องสับสนทุกคำล้วนหมายถึงการ์ดแสดงผลทั้งสิ้น
สี
คุณต้องการสีสันบนจอภาพหรือไม่ ถ้าใครต้องการ คำแนะนำของผมก็คือ ซื้อจอภาพสีซะถึงแม้ว่าคุณจะต้องใช้เวลากับการทำงานบนโปรแกรมเวิร์ดโปรเซสเซอร์ โปรแกรมบัญชีและพิมพ์ออกมาในแบบขาวดำ แต่ถ้าคุณมีจอภาพสีคุณจะรู้สึกถึงความสนุกสนาน และความง่ายในการใช้งานมากกว่าใช้จอภาพขาวดำ ไม่ว่าจะเป็นโปรดแกรมเวิร์ดโปรดเซสเซอร์โปรดแกรมกระดานอีเล็กทรอนิกส์ หรือโปรแกรม อื่นใดก็ตามจอภาพสีมอบความสบายให้กับคุณมากกว่า เช่น คุณจะสามารถเห็นตัวอักษรที่เลือกได้ง่ายกว่า หรือเมื่อคุณมีตัวเลขติดลบบนกระดานอิเล็กทรอนิกส์ โปรแกรมก็จะแสดงตัวเลขนั้นออกบนจอภาพในรูปแบบของตัวเลขสีแดง เป็นต้น และที่สำคัญที่สุด จอภาพสีได้รับความนิยมในการใช้งานสูงการซ่อมแซมทำได้ง่าย และ ราคาถูกกว่า
ความละเอียด
ความละเอียดของจอภาพขึ้นอยู่กับจำนวนจุดแสงที่มีอยู่บนจอภาพ (ซึ่งเรียกว่า “พิกเซล” (Pixel) มาจากคำว่า Picture elements) จอภาพที่มีความละเอียดสูงจะทำให้คุณมองภาพที่อยู่บนจอได้ง่าย และเห็นรายละเอียดต่าง ๆ อย่างชัดเจน
ทุกวันนี้มาตรฐานต่ำสุดของจอภาพสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีความ -สามารถเหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของบริษัทไอบีเอ็ม (IBM compatible) ก็คือ จอภาพแบบ VGA (มาจาก Video Graphic Array) จอภาพแบบนี้สามารถแสดงผลได้ที่ความละเอียด 640 พิกเซลทางด้านแนวนอน และ 480 พิกเซลทางด้านแนวตั้ง แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีการวางขายในปัจจุบันมักจะขายพร้อมกับจอภาพในแบบ SVGA (Super VGA) ซึ่งจะสามารถแสดงผลได้ที่ความละเอียด 800 คูณ 600 พิกเซล หรือ 1,024 คูณ 768 พิกเซล ขึ้นอยู่กับโปรม-แกรมที่ใช้งาน และถ้าคุณต้องการที่จะใช้งานโปรแกรมมัลติมีเดียคุณควรจะเลือกใช้จอภาพแบบ SVGA เพราะว่าโปรดแกรมมัลติมีเดียส่วนมากต้องการจอภาพในแบบ SVGA (จอภาพ SVGA จะสามารถทำงานในโหมด VGA ได้ดีเท่า ๆ กับจอภาพแบบ VGA)
ขนาด
จอภาพมาตรฐานทั่วไปมักจะมีขนาด 14 นิ้ว (วัดตามเส้นทแยงมุมเหมือนการวัด ขนาดโทรทัศน์) แต่ถ้าคุณมีกำลังซื้อมาก คุณอาจจะซื้อจอภาพที่มีขนาด 15 นิ้ว, 16 นิ้ว, 17 นิ้ว เพราะว่าจอภาพยิ่งมีขนาดใหญ่ก็จะแสดงผลต่าง ๆ บนจอกภาพได้มากขึ้น มองเห็นได้ชัดขึ้น
จอภาพที่ใหญ่ที่สุดที่มีการผลิตจำหน่ายในปัจจุบัน มักจะนิยมผลิตขนาด 20 นิ้ว, 21 นิ้ว และ 24 นิ้ว จอภาพยิ่งมีขนาดใหญ่ก็ยิ่งมีราคาแพงมากขึ้น ข้อดีของจอภาพขนาดใหญ่ก็คือมองเห็นภาพขนจอได้ชัดเจน สามารถแสดงข้อมูล บนจอภาพได้มกกว่าจอภาพธรรมดาเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องทำงานกับกระดานอิเล็กทรอนิกส์ที่มีปริมาณข้อมูลมาก ๆ เพราะจะเห็นข้อมูลทั้งหมดได้ในเวลาเดียวกัน แต่มิใช่ว่าจอภาพขนาดใหญ่จะมีแต่ข้อดี ข้อเสียก็มีเหมือนกัน ข้อเสียของจอภาพขนาดใหญ่ก็คือ ราคาแพง นอกจากนั้นยังใช้เนื้อที่บนโต๊ะมาก และอาจมีความสว่างในการแสดงผลมากเกินไปสำหรับบางคน อาจจะทำให้แสบตา ซึ่งผู้เขียนก็ไม่ได้ ต้องการให้ผู้ใช้งานเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องซื้อจอภาพใหญ่ ๆ มาใช้ ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่า
คุณภาพของภาพ
มีหลายปัจจัยที่เราจะต้องใช้เมื่อเวลาที่เราต้องการจะตัดสินว่าจอภาพใดมีคุณภาพ มากกว่ากันสิ่งที่สำคัญที่สุด และต้องให้ความสำคัญกับมันมากกว่าอย่างอื่น เมื่อ ต้องการจะตัดสินถึงคุณภาพของจอภาพก็คือ ระยะห่างระหว่างจุด (dot pitch), อัตราการสร้างภาพใหม่ในแนวตั้ว (vertical refresh rate) และการเต้นของภาพ (interlacing) และสิ่งสุดท้าย แต่ไม่ท้ายสุดก็คือ ความชอบของตัวผู้ซื้อ ระยะห่างระหว่างจุดจะใช้สำหรับการวัดคุณภาพของจอภาพสีเท่านั้น ซึ่งระยะห่างระหว่าง จุดนี้จะบ่งบอกถึงความละเอียดของแต่ละพิกเซลบนจอภาพ จอภาพที่มีระยะห่างระหว่างจุดน้อย จะแสดงภาพบนจอภาพได้ดีกว่าจอภาพที่มีระยะห่างระหว่างจอภาพมาก จอภาพขนาด 14 นิ้ว ควรจะมีระยะห่างระหว่างจุดประมาณ 0.28 หรือน้อยกว่า ในขณะที่จอภาพใหญ่อาจจะมีค่าระยะห่างระหว่างจุดมากกว่าจอภาพ 14 นิ้ว
เล็กน้อย อย่างไรก็ตามจงอย่าตกเป็นเหยื่อของผู้ขายถ้าพวกเขาเหล่านั้นเสนอขายจอภาพที่มีระยะห่างระหว่างจุดสูง ๆ ในราคาที่ถูกกว่าจอภาพที่มีระยะห่างระหว่าง จุดต่ำ ๆ พวกเข้าเหล่านั้นมักจะมีวิธีที่ทำให้คุณหลงเชื่อว่า จอภาพที่มีระยะห่างระหว่างจุดต่ำ ๆ สามารถแสดงผลได้ชัดเจนเทียบเท่ากับจอภาพที่มีระยะห่างระหว่างจุดสูง ๆ โดยพวกเขาเหล่านั้นมักจะแสดงให้คุณดูในภาพกราฟิก และชี้ให้คุณเห็นว่าไม่มีความแตกต่างในการแสดงผลแบบกราฟิก แต่สิ่งที่วัดคุณภาพ หรือความละเอียดของจอภาพไม่ได้วัดจากการที่จอภาพสามารถแสดงภาพกราฟิกบนจอได้ชัดเจน มากน้อยเพียงไร และถ้าคุณต้องการจะดูว่าจอภาพดังกล่าวมีคุณภาพมากน้อย เพียงไร ให้ดูจากความคมชัดของตัวอักษรที่แสดงบนจอภาพ
ส่วนอัตราการสร้างภาพใหม่ในแนวตั้งของจอภาพ จะแสดงให้คุณทราบถึง จำนวนวครั้งที่จอภาพทำการกวาดเส้นสร้างภาพจากตำแหน่งบนสุดของจอภาพ ไปถึงตำแหน่งล่างสุดของจอภาพต่อวินาที จอภาพที่มีค่านี้ยิ่งมากเท่าไรยิ่งมีคุณภาพดีมากเท่านั้น อัตราการสร้างภาพนี้จะมีหน่วยเป็นเฮิรตซ์ (Hz) จอภาพส่วนใหญ่จะมีอัตราการสร้างภาพที่ 60 ครั้งต่อนาที่ (60 Hz) ซึ่งเรียกว่าดีพอสำหรับการแสดงผลตัวอักษร แต่อาจจะไม่ค่อยดีสำหรับการแสดงผลในแบบกราฟิก ซึ่งเป็นหัวใจหลักของวินโดวส์และโปรดแกรมใช้งานที่ทำงานภายใต้วินโดวส์โดยทั่วไป ซึ่งควรจะใช้จอภาพในแบบ SVGA ซึ่งมีอัตราการแสดงผลที่ 72 Hz
การเต้นของภาพเกิดจากกระบวนการสร้างภาพบนจอภาพ จอภาพที่มี การเต้น (Interlaced monitor) เกิดจากการหลอดภาพของจอภาพชนิดนี้จะต้องกวาดลำแสงสองครั้งเพื่อสร้างภาพ (เหมือนกับโทรทัศน์) แต่สำหรับจอภาพที่มี การกวาดลำแสงในการสร้างภาพเพียงครั้งเดียว จะให้ภาพที่นิ่งกว่าและระคายเคือง ตาเวลาทำงานหน้าจอภาพนาน ๆ น้อยกว่า เราเรียกจอภาพแบบนี้ว่า “noninterlaced monitor”
ดังนั้น ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อจอภาพ กรุณาบอกให้คนขายลองจอภาพให้ดู ประกอบการพิจารณา โดยให้ทางคนขายเปิดโปรแกรมที่ใช้งานโดยทั่วไป เช่น โปรดแกรมเวิร์ดโปรเซสเซอร์ โปรแกรมกระดานอเล็กทรอนิกส์ โปรดแกรมวาดภาพโปรแกรมมัลติมีเดียจากซีดีรอมหรือเกม รวมทั้งภาพเคลื่อนไหว แล้วให้สังเกตดู ทั้งคุณภาพของตัวอักษร และรูปภาพบนจอภาพว่าแสบตาหรือไม่ รวมทั้งมีความคมชัดเป็นที่น่าพอใจหรือไม่ สำหรับวิธีที่ดีที่สุดในการดูว่าคุณภาพของภาพเป็นอย่างไร ให้ลองดูตัวอักษรสีขาวบนพื้นสีดำ ซึ่งจะบ่งบอกถึงคุณภาพของจอภาพได้ง่าย และตรงมากที่สุด
ท้ายสุดสำหรับการซื้อจอภาพก็คือความพึงพอใจของผู้ซื้อ ถ้าคุณมองแล้วชอบก็ซื้อไปเถอะ เพราะคุณเป็นคนที่รู้ดีที่สุดว่าจอภาพที่คุณเห็น คุณภาพของภาพที่เห็นคุณพอใจหรือไม่ ผู้ซื้อบางคนาจะชอบยืดติดกับยี่ห้อ สำหรับคนเขียนก็เป็น คนหนึ่งที่ยืดติดกับยี่ห้อเหมือนกัน ผู้เขียนมักชอบที่จะใช้จอภาพของ Sony, NEC หรือไม่ก็ของ Philip ถึงแม้ว่าคุณภาพของจอเหล่านี้จะมีคุณภาพที่ดีกว่าจอภาพ อื่น ๆ แต่ขอเสียก็อยู่ตรงที่มีราคาแพง แต่ก็คุ้มค่ากับความสามารถของมันที่จะมอบให้กับเรา คำแนะนำสุดท้ายของผมเกี่ยวกับซื้อจอภาพก็คือ ซื้อจอภาพที่ทำให้คุณรู้สึกว่าคุณเกิดมาเพื่อใช้จอภาพนั้น ผมชอบที่จะสั่งซื้ออุปกรณ์คอมพิวเตอร์จากหนังสือแค็ตตาล็อก แต่ไม่มีวันที่จะซื้อจอภาพจากแค็ตตาล็อกเพราะผมจะไม่มีโอกาสเห็นคุณภาพของมันก่อนที่จะซื้อ